อยากไป Work and Travel USA แต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี เห็นเค้าไปสวนสนุกกัน เค้าไปทำอะไรน้า 
OEG รวบรวม 7 สิ่งที่คนทั่วไปมักไม่รู้เกี่ยวกับการไปทำงานที่สวนสนุกมาให้ดูกัน
   

1. Summer ชั่วโมงแน่น
ในช่วง Summer คนอเมริกันนิยมเที่ยวสวนสนุกกันอย่างมาก ในปี 2019 มีคนเข้าสวนสนุก Cedar Point Amusement Park เกือบ 4 ล้านคน ติดอันดับที่ 11 สวนสนุกที่มีคนเที่ยวมากสุดในอเมริกาเลยทีเดียว ชั่วโมงงานไม่ต้องพูดถึงเลย ชั่วโมงแน่นมาก!! ถ้าน้องคนไหนมีแรงเหลือ ทำงานดี บางคนไปของานเพิ่มจากแผนกอื่น หรือ ควบ 2 Shifts ไม่ต้องเดินหางานสองให้เหนื่อย แถมไม่ต้องส่งเรื่องให้องค์กรแลกเปลี่ยนฯ ตรวจสอบงานสองให้วุ่นวายด้วย 

นอกจาก Cedar Point Amusement Park เป็นสวนสนุกที่คนนิยมเที่ยวแล้ว ยังได้รางวัล “สวนสนุกที่ดีที่สุดของโลก” ในปี 2019 และมีเครื่องเล่นที่เคยได้ชื่อว่า "The World's Tallest Roller Coaster" ถึง 4 เครื่องเล่น ไม่แปลกใจเลยที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามากันอย่างคับคั่งจากทั่วอเมริกา

2. หอพักราคาประหยัด
สวนสนุกส่วนมากจะสร้างที่พักให้เฉพาะเด็ก Work and Travel ทำให้ค่าที่พักถูก แถมอยู่ใกล้สวนสนุก หรืออาจมีรถรับส่งฟรี!! จากบ้านพักไปที่ทำงานเลย ประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะมาก 

อย่างหอพักที่สวนสนุก Kings Island – Cedar Fair Park ราคาเพียง $70 ต่อสัปดาห์เท่านั้น และด้วยค่าแรง $10.50 ต่อชั่วโมง น้อง ๆ ทำงานแค่ 1 ชั่วโมงก็ได้ค่าบ้าน แล้ว คุ้มค่าสุด ๆ (โรงแรมในอเมริกายังคืนละเกือบ $100 เลย)

ถึงหอพักจะมีราคาประหยัด แต่อัดแน่นด้วยอุปกรณ์ ห้องพักส่วนใหญ่จะมีเตียง 2 ชั้น มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะ เก้าอี้ และตู้เย็นเล็ก ๆ ให้ในห้อง ในบางหอพักอาจจะเป็นห้องน้ำรวม มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดให้ด้วย นอกจากนี้ยังมี ครัวกลาง ห้องนั่งเล่น ลานกีฬา/กิจกรรม หรือบางที่มี Fitness ให้เข้าฟรีด้วย คุ้มสุด ๆ
 

3. จองงานง่าย จองงานยกแก๊งค์สบาย
ไป Work and Travel USA คนเดียวก็ไม่เหงาหรือจะไปกับกลุ่มเพื่อนก็สบาย เพราะสวนสนุกมีขนาดใหญ่ต้องการพนักงานเยอะมาก ทำให้สามารถรับน้อง ๆ Work and Travel จากทั่วโลกได้เป็นจำนวนมาก และมีตำแหน่งงานให้เลือกมากที่สุด จึงสามารถรับน้อง ๆ ได้เกือบทุกระดับภาษา เหมาะกับน้องที่ต้องการไปเป็นคู่ กลุ่ม หรือ ไปหาคู่(เพื่อน)ใหม่ นอกจากได้ไปกับเพื่อนแล้ว ยังมีโอกาสได้พบเพื่อนใหม่จากทั่วโลก ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมากมาย ไม่มีคำว่าเหงาแน่นอน

รู้หรือไม่ว่ากฎหมายในอเมริกาอนุญาตให้คนอายุ 16 – 18 ปี ทำงานได้ จึงไม่แปลกเลยที่น้อง ๆ อาจจะมีเพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่าน้อง ๆ เสียอีก ทำให้เวลาทำงาน ก็จะสนุกสนานตามสไตล์สวนสนุก
 

4. ทุกตำแหน่งได้คุยกับลูกค้า
การทำงานในสวนสนุกนั้น น้อง ๆ จะมีโอกาสได้คุยสื่อสารกับลูกค้าและทุกตำแหน่งได้ฝึกภาษาอังกฤษอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะทำงานตำแหน่ง คุมเครื่องเล่น (Ride Operator) ขายอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Associate) ขายของที่ระลึก (Merchandise) คุมซุ้มเกมส์ (Game Attendant) และ ตำแหน่งที่หลายคนคิดไม่ถึงว่าจะได้ใช้ภาษาเยอะมาก ๆ คือ ตำแหน่งทำความสะอาดสวนสนุก (Park Services) เพราะเป็นตำแหน่งที่เจอลูกค้ามากที่สุด เพราะเวลาลูกค้าถามทางก็มักจะถามน้อง ๆ Park Service นี่แหละ จะเรียกว่าเป็น Brand Ambassador ของสวนสนุกเลยก็ว่าได้

5. กิจกรรมแน่น และปาร์ตี้ฟรี
สวนสนุกรับน้อง ๆ Work and Travel USA จากหลากหลายประเทศทั่วโลก เลยให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมาก ๆ จึงจัดกิจกรรมให้น้อง ๆ ได้เจอกับเพื่อนอเมริกัน และ ต่างชาติ เช่น Employee Party, Ride Night, Christmas in July, Bingo, BBQ เป็นต้น ที่สำคัญกิจกรรมทั้งหมดนี้ ฟรี!!

ในวันหยุด น้อง ๆ ยังได้เข้าสวนสนุกฟรี (ปกติตั๋วราคาประมาณ $100) เล่นเครื่องเล่นกี่รอบก็ได้ ไม่มีจำกัด แถมยังมีบัตรพาเพื่อนหรือครอบครัวเข้ามาเล่นสวนสนุกฟรีให้เพิ่มอีกด้วย ยังไม่พอน้อง ๆ สามารถซื้ออาหารและของที่ระลึก ในราคาพนักงาน ลดกระหน่ำสุด ๆ 

นอกจากนี้นายจ้างยังจัด Bus Trip พาไปเที่ยว Landmark ขึ้นชื่อใกล้ ๆ ในราคาที่ถูกมากด้วย ถือว่าไป Work and Travel ทั้งทำงานและเที่ยวคุ้มสุด ๆ 

ที่นายจ้างมอบสวัสดิการดี ๆ ให้น้องแบบนี้เป็นเพราะว่านายจ้างไม่ได้มองว่าน้องเป็นเพียงพนักงานทั่วไปเท่านั้นแต่เป็นน้อง ๆ ที่อยากมาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและฝึกภาษา จึงจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้น้อง ๆ มากมายเช่นนี้
 

6. เดินทางสะดวก
สวนสนุกส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเมือง หรือเป็นเมืองที่คนนิยมมาเที่ยว ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก มีรถ Bus คอยรับส่งทั่วเมือง ใครอยากไปเที่ยว Downtown หรือไป Shopping ไปหาอะไรอร่อย ๆ ทานกับเพื่อน ก็สามารถทำได้ หรือจะเรียกแท็กซี่ / Uber ก็มีให้บริการตลอด แทบจะ 24 ชั่วโมง

หากวางแผนเที่ยวดี ๆ หลังสิ้นสุดงานช่วงบินกลับ ยังแวะเที่ยวเมืองดัง ๆ อย่าง New York City, Chicago, Los Angeles, หรือ San Francisco ได้อีกด้วย ไปอเมริกาทั้งทีต้องไปเก็บ Landmark ให้ครบ ซึ่งหากไปทำงานในเมืองใหญ่อยู่แล้ว การไปเดินทางไปเที่ยวก็จะทำได้ง่ายขึ้น
 

7. งานแรกและงานที่รับเด็กไทยยาวนานที่สุด
หลายคนอาจจะทราบแล้วว่า OEG เป็นผู้บุกเบิกโครงการ Work and Travel USA ในประเทศไทย แต่อาจจะยังไม่ทราบว่างานแรกที่รับน้อง ๆ เด็กไทยเข้าทำงานคือสวนสนุก Busch Gardens Williamsburg และยังคงเป็นสวนสนุกที่เด็กไทยเลือกเข้าร่วมโครงการฯ จนถึงวันนี้ มากว่า 20 ปีแล้ว

ที่ Busch Gardens Williamsburg ได้รับความนิยม เพราะนายจ้างดูแลดี มีที่พัก รถรับส่ง จัดทริปเที่ยว ตำแหน่งงานหลากหลาย ในเมืองมี Outlet Shopping Mall และ Supermarket ไปเที่ยว D.C. หรือ New York ก็ง่าย แถมรัฐนี้ค่าครองชีพก็ไม่สูงอีกด้วย 

นอกจากนี้ Busch Gardens Williamsburg ยังได้รับรางวัลการันตีจาก The National Amusement Park Historical Association (NAPHA) ว่าเป็น “สวนสนุกที่สวยที่สุดในโลก” ติดต่อกันถึง 29 ปี 

การได้ทำงานในสวนสนุกในระดับตำนานนั้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว

 OEG ผู้บุกเบิกและผู้นำโครงการ Work & Travel USA ในประเทศไทย

LINE: @OEGWorkAndTravel 
Instagram: OEG_WorkAndTravel 
Facebook: OEGWorkAndTravel
Website: www.oeg.co.th 

สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ
โทร 02-263-3666
อีเมล WorkExchange@oeg.co.th
เวลาทำการ: วันจันทร์ - วันศุกร์ / เวลา 10.00 - 18.00 น. และ วันเสาร์ เวลา 10.00 - 16.30 น.


สำนักงานเชียงใหม่
โทร 053-328-117
อีเมล ChiangMai@oeg.co.th⠀
www.facebook.com/OEGCM
www.instagram.com/OEGChiangMai
เวลาทำการ: วันจันทร์ - วันศุกร์ / เวลา 10.00 - 18.00 น.

#OEG #TeamOEG #WorkAndTravel
#งานจริง #ตัวจริง #สัมภาษณ์จริง #ผ่านจริง⠀