=
1. อยากใช้ภาษาให้คูล แบบเนทีฟสปีคเกอร์ ใครๆ อาจจะบอกว่าเราพูดภาษาอังกฤษได้ก็ดีแล้ว แต่เราเองก็ยังไม่มั่นใจเท่าไรใช่ไหมละ การไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน จะยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้เรามาก สมมติง่ายๆ เหมือนถ้าปกติเราต้องคิด 10 วิ แต่เมื่อเราได้ไปใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้น แปบเดียว แค่ 1 วิ เราก็ตอบกลับได้คล่องแค่ลว ชุดใหญ่ไปเลย และภาษาเหล่านี้จะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ถึงอยากลืม ก็ลืมไม่ได้จ้า
2. อยากใช้ชีวิตชิคๆ สไตล์เด็กไฮสคูล เชื่อว่า.. หลายคนคงเคยดูหนัง ที่มีฉากไลฟ์สไตล์ของเด็กไฮสคูล แล้วรู้สึกว่า มันว้าว อยากไปเรียนแบบนั้นบ้าง บอกเลยว่า การไปแบบนักเรียนแลกเปลี่ยน เป็นอะไรที่กดดันน้อยสุด ถ้าเทียบกับการไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยเราจะได้ไปสัมผัสบรรยากาศการเรียนที่ต่างประเทศ มันดีนะที่เราตั้งใจเรียนอย่างจริงจังในห้อง เลิกบ่ายสอง ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมตามความสนใจ เช่น ชมรมกีฬา หรือ ชมรมดนตรีออร์เคสต้า ก่อนกลับบ้านการไป 1 ปี เป็นเวลาที่ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป ที่จะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเต็มที่ และที่สำคัญ Once in a Life Time
3. เข้ากับคนอื่นง่าย พร้อมเรียนรู้ คำว่าแลกเปลี่ยนก็คือ การเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศอื่น ผ่านการไปเรียนและพักอาศัยอยู่กับครอบครัวประเทศนั้นๆ นอกจากนั้นน้องจะได้นำวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ เช่น ทำอาหารไทย สอนมารยาทไทย หรือ เล่นดนตรีไทย แล้วยิ่งถ้าน้องเป็นคนที่เข้ากันคนอื่นง่าย พร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆที่จะเข้ามา จะช่วยสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัวโฮสต์และเพื่อนๆได้เยอะเลย เผลอแป็บเดียว รู้ตัวอีกทีอยู่มา ครบ 1 ปี ต้องกลับไทยแล้วหรอเนี่ย หลายคนกอดโฮสต์น้ำตาไหลโฮเลย
4. ซ้ำชั้นเรื่องเล็ก ซ้ำชั้น เป็นสิ่งแรกๆเลยที่น้องหลายคนกังวลใจ บางคนกลัวไม่จบพร้อมเพื่อน กลัวกลับมาแล้วไม่มีเพื่อน บอกก่อนว่า ไม่ทุกคนที่จะต้องซ้ำชั้น / จริงๆไม่ต้องเรียนซ้ำชั้นก็ได้ อยู่ที่ความต้องการของเราส่วนใหญ่น้องที่ซ้ำชั้นจะเป็นเด็กสายวิทย์ที่การเรียนที่นู่นอาจไม่เหมือนบ้านเราแต่ถ้าเป็นเด็กสายศิลป์ หลายคนเลยที่พาสชั้นได้ สำหรับคนที่ต้องซ้ำชั้น พี่ศิษย์เก่า 100% บอกว่ามันคุ้มมาก การที่เราเรียนช้ากว่าเพื่อน 1 ปี ทำให้เราได้
>>เพื่อนใหม่ที่ต่างประเทศ
>>เพื่อนใหม่ที่ไทย
>>ประสบการณ์ที่เพื่อนที่ไทยไม่มี
>>โอกาสได้รับทุนเรียนต่อต่างประเทศ
>>โอกาสติดมหาวิทยาลัยรอบโควตา บางคนเข้ามหาวิทยาลัยได้พร้อมเพื่อนเลย
ฯลฯ
หลายคนกลับมาทัศนคติเปลี่ยนไป บ้างก็ค้นพบตัวเอง 1 ปีที่ผ่านไป แลกกับอนาคตอีกทั้งชีวิตที่ทุกคนที่ไปมา บอกเป็นเสียงเดียวกับว่า "คุ้มมาก"
5. พร้อมลุยทุกสถานการณ์ แน่นอนว่าการไปอยู่ต่างบ้าน ต่างถิ่น มันจะไม่สุขสบายเหมือนบ้านเรา ช่วงแรกๆมักจะเกิดอาการโฮมซิคทั้งนั้น เราอาจเจอทั้งอากาศ อาหาร สถานการณ์ต่างๆ เช่น การวางตัวในการทักทาย/บนโต๊ะอาหาร การเข้าไปในโรงเรียนครั้งแรก หรือ การทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ ที่ต้องปรับตัว ปรับมุมมอง ทำความเข้าใจทั้งภาษาและวัฒนธรรม แต่ถ้าน้องมีใจสู้ พี่เชื่อว่าน้องจะผ่านมันไปได้ทุกคน ที่สำคัญเราจะรู้สึกว่า "เราโตขึ้น" “เราจัดการกับชีวิตตัวเองได้” คุณพ่อ คุณแม่จะภูมิใจในตัวเรามากๆ ที่เห็นเราดูแลตัวเองได้ด้วย ถ้าน้องพร้อมจะเผชิญประสบการณ์ใหม่ๆที่ท้าทายแล้ว ก็ไปต่อเลย / กายพร้อม ใจพร้อม เราไปได้ ลุย!
ขอให้น้องโชคดีในการสอบ
แล้วพบกันนะจ๊ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
• สำนักงานกรุงเทพฯ: 02-214-6151
• สำนักงานเชียงใหม่: 053-328-117
